ในที่สุด “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ได้กลับไปวาดลวดลายใน เจ ลีก อีกครั้งในปี 2019 คราวนี้ถือว่าไปทีมใหญ่อย่าง โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เลยทีเดียว แต่ในเมืองนั้นจะมีอะไรให้น่าตื่นตาตื่นใจบ้าง ไปหาคำตอบกันได้เลย
1. หลังจากทีมเข้าร่วมการแข่งขันในปี 1982 ในชื่อ “นิสสัน มอเตอร์ส เอฟซี” เรื่อยมาจนถึงลีกสูงสุดญี่ปุ่นในปี 1993 เชื่อไหมว่ามาถึงซีซั่น 2018 พวกเขายังไม่เคยร่วงจาก เจ ลีก เลย เป็น 1 ใน 2 ทีมร่วมกับ คาชิมา แอนเลอร์ส กับ 26 ซีซั่นเข้าให้แล้วที่ไม่เคยต้องไปเล่นใน เจ ทู
2. ในปี 1999 โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เกิดจากการรวมตัวของ “โยโกฮาม่า มารินอส” กับ “โยโกฮาม่า ฟลูเกลส์” ซึ่งคำว่า “มารินอส” นั้นหมายถึงกะลาสีเรือในภาษาสเปน เพราะตั้งอยู่บริเวณอ่าวโตเกียวทางใต้ของกรุงโตเกียวในภาคคันโตบนเกาะหลักฮนชู เป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมที่สำคัญของโตเกียว
3. โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส กวาดรางวัลทุกสถาบันในแดนปลาดิบมาแล้ว ทั้ง เจ ลีก 3 สมัย (1995, 2003, 2004), แชมป์ เจ ลีก เลกแรก 4 สมัย (1995, 200, 2003, 2004), แชมป์ เจ ลีก เลกสอง 1 สมัย (2003), เอ็ม เพอเรอร์ส คัพ 2 สมัย (1992, 2013), เจ ลีก คัพ 1 สมัย (2001) รวมทั้งยังได้แชมป์เอเชียในชื่อเก่า เอเชียน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย (1991-1992)
4. “ยูจิ นากาซาวะ” ที่ติดชื่อเล่นข้างหลังเสื้อว่า “บอมเบอร์” (Bomber) คือ ปราการหลังตั๋วเก๋าที่เพิ่งประกาศยุติเส้นทางลูกหนังในวย 40 ปี หลังย้ายจาก โตเกียว เวอร์ดี้ มาอยู่กับทีมตั้งแต่ปี 2002-2018 พาทีมคว้าแชมป์ เจ ลีก 2 ครั้ง (2003, 2004), , เอ็ม เพอเรอร์ส คัพ 1 สมัย (2013) ผ่านฟุตบอลโลก กกับทีมชาติญี่ปุ่น 2 หน ปี 2006, 2010 รวมทั้งเคยพาทัพ “ซามูไร บลู” เป็นแชมป์ เอเชียน คัพ 2 หน ปี 2000, 2004
5. ชุนซูเกะ นากามูระ หรือเจ้าของฉายา “เบ็คแฮมญี่ปุ่น” เคยอยู่กับทีมนี้ 2 ครั้ง หนแรกคือ ปี 1997-2002 พาทีมคว้าแชมป์ เจ ลีก 2001 ก่อนย้ายไปเล่นใน กัลโช่ เซเรีย อา กับ เรจจิน่า 2002-205 ตามด้วยสก็ตติช พรีเมียร์ลีก กับ กลาสโกว เซลติก ปี 2005-2009
โดยสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก เมื่อกระซวกฟรีคิกผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ พาทีมตีเสมอ แมนฯยูฯ 2-2 ก่อนบุกไปแพ้ 2-3 ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2006-2007 จากนั้นไปเล่นใน ลา ลีกา สเปน กับ เอสปัญญอล ตามด้วยกลับมา โยโกฮามา เอฟ มารินอส ปี 2010-2016 และปัจจุบันไปอยู่กับ จูบิโล่ อิวาตะ
6. นิสสัน สเตเดี้ยม คือ รังเหย้าของเขา ตามที่ “นิสสัน” ถือหุ้นอยู่ 80 เปอร์เซ็นต์ของสโมสร โดยสนามแห่งนี้มีความจุเยอะที่สุด คือ 72,327 ที่นั่ง ผ่านการใช้งานใน รอบรอง-รอบชิงฯ คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2001, รอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด และรอบชิงฯ ฟุตบอลโลก 2002, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2005, 2006, 2007, 2008, 2011, 2012, 2015, 2016 ซึ่งในปี 2016 นี่คือ ที่ กาคุ ชิบาซากิ เพลเมกเกอร์ คาชิมา แอนเลอร์ส พาทีมคว้ารองแชมป์ได้เป็นครั้งแรกของทีมจากญี่ปุ่น ด้วยการแพ้ เรอัล มาดริด ในช่วงต่อเวลา 2-4 ซึ่งเขาได้นักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 3 จากนั้นปี 2017 ได้ย้ายไปเล่นให้ เตเนริเฟ่ ในสเปน
7. ทาเคชิ โอกาดะ เคยกุมบังเหียน โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ระหว่าง ปี 2003-2006 หลัง ญี่ปุ่น ไปฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส ตามด้วยการมาทำ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่มี ฮัคค์ ดาวยิงตีนหนักในเวลานั้น และเขานี่เองที่พาทีมคว้าแชมป์ เจ ลีก 2 สมัยในปี 2003, 2004
8. วกมาที่เรื่องของเครื่องดื่มกันบ้าง เมืองแห่งนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของแอลกอฮอล์ชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง “คิริน” ที่มีทั้งโรงหมักและพิพิธภัณฑ์ให้กับผู้สนใจมาซึมซับบรรยากาศอีกด้วย
9. ส่วนเรื่องอาหารนั้นต้องยกให้กับ “ราเมง” เพราะที่นื่ถือว่าเป็นต้นตำหรับ หรือที่เรียกกันว่า “โยโกฮาม่าราเมง” มีเอกลักษณ์เฉพาะคือเส้นราเมงที่อ้วนแล้วตรงของโชยุราเมง ส่วนผสมทั่วๆไปมีชาชู ไข่ ผักโขม แต่ที่พิพิธภัณฑ์จะรวบรวมร้านอันโด่งดังให้เราได้ชิมถึง 9 ร้าน
10. ปิดท้ายที่ 2 แลนด์มาร์คทีสำคัญอีกอย่าง ชิงช้าสวรรค์คอสมอสเวิลด์ ตั้งอยู่ในสวนสนุกชื่อดัง คอสมอสเวิลด์ ชิงช้าสวรรค์นั้นจะเปิดไฟตอนกลางคืน เมื่อขึ้นไปแล้วยังจะเห็นวิวรอบเมืองได้อีกด้วย ตลอดจนท่าเรือโอซานบาชิ ซึ่งเห็นสะพานโอซานบาชิ อันเป็นสะพานที่ดูมีศิลปะกลางทะเล เมืองท่าโยโกฮาม่าและทิวทัศน์โดยรอบ