วิเคราะห์-วัดค่าพลัง เทียบค่าพลัง-สถิติ “ยูโร 2020″ รอบรองชนะเลิศ คู่รักคู่แค้น “อิตาลี” ปะทะ “สเปน” ทัพกระทิงดุหวังล้างตาจากปี 2016 ที่ถูกเขี่ยตกรอบ 16 ทีม ส่วนอัซซูรีกำลังกระหายไล่ล่าแชมป์ยูโรสมัย 2
รอบรองชนะเลิศ
วันที่ : 6 กรกฎาคม 2564 (เวลา 02.00 น. ของวันที่ 7 กรกฎาคม เวลาประเทศไทย)
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดียม, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ถ่ายทอดสด : ช่อง NBT 2HD (หมายเลข 2) andaman888
เกมรุก
อิตาลี ทำประตูจากยูโร 2020 ไปแล้ว 11 ลูก มากสุดเป็นอันดับ 2 เป็นรองแค่สเปน แต่ทัพอัซซูรีเป็นทีมที่มีโอกาสยิงมากสุดเป็นอันดับหนึ่ง อยู่ที่ 101 ครั้ง นัดนี้ โรแบร์โต มันชินี น่าจะยึด 3 ประสานแนวรุกจากเกมที่ชนะเบลเยียม 2-1 ลอเรนโซ อินซินเย, ชิโร อิมโมบิเล, เฟเดริโก เคียซา
สเปน ของ หลุยส์ เอ็นริเก นัดที่แล้วโชว์ฟอร์มเกมรุกไม่ออก เสมอสวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ทั้งที่ขุนพลนาฬิกาเหลือ 10 คน นาทีที่ 77 ก่อนจะดวลจุดโทษชนะผ่านเข้ารอบมาได้หวุดหวิด ปัญหาของสเปนครองบอลได้เยอะกว่าคู่แข่งก็จริง แต่การจบสกอร์นั้นยังไม่เด็ดขาดพอ นัดนี้ต้องรอเช็กความฟิต ปาโบล ซาราเบีย
คะแนน : อิตาลี 9, สเปน 8
———-
เกมรับ
อิตาลี เสียประตูในยูโรคราวนี้ไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น ซึ่งมาจาก 2 นัดล่าสุด เก็บคลีนชีตไป 3 นัด เท่ากับ เบลเยียม รั้งอันดับ 2 เป็นรองอังกฤษ อันดันหนึ่งที่เก็บไป 5 คลีนชีต เกมรับถือเป็นจุดแข็งของอิตาลีมาโดยตลอด ยิ่ง 2 คู่เซ็นเตอร์ทั้ง เลโอนาร์โด โบนุชชี กับ จอร์โจ คิเอลลินี เล่นด้วยกันมานานทำให้เข้าขารู้ใจเป็นอย่างมาก แต่ว่านัดนี้น่าจะเสียหายเล็กน้อยเมื่อไม่มีแบ็กซ้ายที่โชว์ฟอร์มได้ดี “เลโอนาร์โด สปินาซโซลา” เจ็บเอ็นร้อยหวายจากนัดก่อน ต้องพักยาวหลายเดือน คาดว่ามันชินีจะใช้งาน เอเมอร์สัน พัลมิเอรี ในตำแหน่งนี้
ฝั่ง สเปน ดูเหมือนจะมีปัญหาในเรื่องเกมรับ หลังเสียประตูมา 2 นัดติดต่อกัน รวมแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้เสียไป 5 ลูก สมาธิแนวรับต้องรีบปรับแก้ เห็นได้จากนัดที่แล้วพลาดกันเองจนถูกสวิตเซอร์แลนด์ลงโทษ โดยในยูโร 2020 ทัพกระทิงดุยังไม่เจอทีมระดับท็อป ซึ่งนัดนี้จะได้ดวลกับอิตาลีเป็นบททดสอบที่แท้จริง
คะแนน : อิตาลี 8.5, สเปน 7
———-
ความแข็งแกร่ง
อิตาลี ชุดนี้นักเตะส่วนใหญ่อยู่ในฟอร์มท่ีดี แต่น่าเสียดายที่นัดนี้ไม่มีแบ็กซ้ายคนเก่ง เลโอนาร์โด สปินาซโซลา เจ้าของสถิติวิ่งเร็วสุดในยูโร 2020 ที่ 33.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ประสิทธิภาพการเติมเกมรุกทางฝั่งซ้ายอาจจะลดน้อยลง แต่ทัพอัซซูรีมีขุมกำลังที่ทดแทนกันได้ แถมยังมีสถิติสุดยอดไม่แพ้ใครมาแล้ว 32 นัด เก็บชัยชนะมา 13 นัดติดต่อกัน
สเปน ไม่แพ้ใครมา 13 นัดติดต่อกัน ถือเป็นอีกหนึ่งทีมที่แข็งแกร่งในเวลานี้ แต่ 2 นัดที่ผ่านมา พวกเขาเริ่มหืดจับกว่าจะผ่านเข้ามารอบรองชนะเลิศ ต้องลุ้นถึงช่วงต่อเวลาและยิงจุดโทษ สภาพทีมไม่มีใครเจ็บ รอเช็กความฟิต ปาโบล ซาราเบีย คนเดียว
คะแนน : อิตาลี 85, สเปน 80
———-
ฟอร์มการเล่น
อิตาลี โชว์ฟอร์มเป็นคนละทีมที่ไม่ผ่านไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 หลังการเข้ามาของ โรแบร์โต มันชินี ที่ปรับสไตล์การเล่นมีเกมรุกที่ดุดันมากขึ้น พวกเขายิงประตูคู่แข่งได้ 14 นัดติดเข้าไปแล้ว
สเปน เป็นทีมที่กำลังผลัดใบ แม้ว่าบางจังหวะพวกเขาอาจจะไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็ถือว่ายังเอาตัวรอดมาได้ อย่างที่กล่าวไป สเปน ไม่แพ้ใครมา 13 นัดติดต่อกันก็จริงแต่เป็นผลเสมอถึง 7 นัด นั่นแสดงให้เห็นว่าทัพกระทิงดุมีปัญหาความเด็ดขาดและเกมที่ไหลลื่น
คะแนน : อิตาลี 90, สเปน 80
แท็กติก
อิตาลี ในยุคของ มันชินี นอกจากเกมรับที่ยังเป็นจุดแข็งแล้ว เกมรุกที่ดุดันเป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามา ประกอบกับมีทีเด็ดจากวิงแบ็กสองฝั่ง รวมทั้งกองกลาง 3 คนยังมีส่วนผสมที่ลงตัว นิโคโล บาร์เรลลลา, จอร์จินโญ, มาร์โก แวร์รัตติ
สเปน เป็นทีมที่มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูงสุดในยูโร 2020 อยู่ที่ 67.2 เปอร์เซ็นต์ และมีสถิติการผ่านบอลสำเร็จสูงสุด 89.4 เปอร์เซนต์ ซึ่งดูเหมือนพวกเขาจะไปได้ดีก็ยังมีปัญหาในเรื่องจบสกอร์ แต่สุดท้ายพวกเขายังเอาตัดรอดผ่านเข้ามาสู่รอบตัดเชือก
คะแนน : อิตาลี 85, สเปน 85
อิตาลี อยากคว้าแชมป์ยูโรให้ได้เป็นสมัยที่ 2 โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาคว้าแชมป์คือปี 1968 ที่บ้านเกิดของตัวเอง หรือกว่า 53 ปีมาแล้วทำให้มีแรงจูงใจสูง ซึ่งปีนี้มีโอกาสที่ดีที่จะคว้าแชมป์ เนื่องจากกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี การที่อัซซูรีผ่านเบลเยียม ทีมอันดับ 1 ของโลกมาได้ ทำให้พวกเขาเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
ขณะที่ สเปน อาจมีเรื่องของดวงมาช่วย หลังดวลจุดโทษเอาสชนะสวิตเซอร์แลนด์ ขวัญกำลังใจดีขึ้นเรื่อยๆ ทัพกระทิงดุไม่ได้ลงเล่นรอบรองชนะเลิศรายการใหญ่ตั้งแต่เป็นแชมป์ยูโร 2012 มาถึงรอบนี้ไม่มีอะไรจะเสีย สู้เต็มที่เพื่อเป้าหมายแชมป์ยูโรสมัย 4
คะแนน : อิตาลี 90, สเปน 85
———-
คะแนนรวม
อิตาลี 90, สเปน 84
———-
เฮด-ทู-เฮด (พบกัน 33 ครั้ง)
อิตาลี ชนะ 9
เสมอ 12
สเปน ชนะ 12
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ
ชนะ ตุรกี 3-0
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0
ชนะ เวลส์ 1-0
รอบ 16 ทีม
ชนะ ออสเตรีย 2-1 (ช่วงต่อเวลาพิเศษ หลัง 90 นาที เสมอ 0-0)
รอบ 8 ทีม
ชนะ เบลเยียม 2-1
สเปน
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี
เสมอ สวีเดน 0-0
เสมอ โปแลนด์ 1-1
ชนะ สโลวะเกีย 5-0
รอบ 16 ทีม
ชนะ โครเอเชีย 5-3 ช่วงต่อเวลาพิเศษ (90 นาที เสมอ 3-3)
รอบ 8 ทีม
ชนะจุดโทษ สวิตเซอร์แลนด์ (120 นาที เสมอ 1-1)
สกอร์ที่คาด : อิตาลี ชนะ สเปน 2-0
หากท่านมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Andaman888
หรือ Line : @Andaman888
ทาง Andaman888 ยินดีให้บริการกับท่านตลอด 24 ชั่วโมง